- Elasticsearch (deep search and data analytics)
- Logstash (centralized logging and parsing)
- Kibana (powerful data visualizations)
การติดตั้งเริ่มต้นโดยเข้าไปที่ ELK Certified by Bitnami แล้วทำการ subscribe และทำตามขั้นตอนไปจนจบ ก็จะได้ Instance ที่มี ELK stack มาใช้งาน
How to find credential of Kibana...
ให้เข้าไปที่ AWS console แล้วทำการหา password ของ user ที่จะใช้ login โดยสามารถดูวิธีได้จาก https://docs.bitnami.com/aws/faq/#how-to-find-application-credentials โดยที่ password นี้จะอยู่ใน System Log ตอนสร้าง Instance ขึ้น ตามรูปข้างล่างในส่วนของ username ที่ใช้ login นั้น ค่าตั้งต้นจะเป็น user
เมื่อได้ user และ password เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถ login เพื่อเข้าใช้ Kibana ได้เลย
How to config Logstash...
การตั้งค่า Logstash เพื่อให้ application สามารถยิง log มาที่ Logstash ได้ ให้แก้ไขไฟล์ config ของ Logstash ซึ่งจะอยู่ที่ /opt/bitnami/logstash/conf/logstash.confเมื่อเปิดไฟล์ Logstash config ขึ้นมาจะเป็นดังรูปข้างล่าง ให้แก้ไขในส่วนของ input ให้เหลือเฉพาะที่เราจำเป็นต้องใช้จริงๆ พร้อมตั้งค่า index ในส่วน output
เมื่อตั้งค่า Logstash config เสร็จแล้วให้บันทึก แล้วเข้าไปที่ AWS console อีกครั้ง เพื่อเปิด port ของ Security Group ของ Instance ตามค่า Logstash config ที่เราใส่ลงไป
ไฟล์ Log ของ Logstash สำหรับตรวจสอบการทำงาน จะอยู่ที่ /opt/bitnami/logstash/logs/logstash.log
สำหรับไฟล์ config และ log อื่นๆ สามารถอ่านเพิ่มได้ที่ https://docs.bitnami.com/aws/apps/elk/get-started/understand-default-config/
How to control ELK service...
คำสั่งสำหรับ restart service เป็นตามด้านล่างsudo /opt/bitnami/ctlscript.sh restart
คำสั่งสำหรับตรวจสอบสถานะของแต่ละ service เป็นตามด้านล่าง
sudo /opt/bitnami/ctlscript.sh status
สำหรับคำสั่งอื่นๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://docs.bitnami.com/aws/apps/elk/administration/control-services/
No comments:
Post a Comment